ทำความสะอาดพื้นผิวของเครื่องตัด: ขั้นแรก ให้ใช้ผ้านุ่มหรือแปรงทำความสะอาดพื้นผิวของเครื่องตัด กำจัดฝุ่น เศษซาก ฯลฯ เพื่อให้มั่นใจว่ารูปลักษณ์ของเครื่องสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย
ตรวจสอบเครื่องตัด: ดูว่าเครื่องตัดเสียหายหรือทื่อหรือไม่ หากพบมีดตัดที่ชำรุดหรือทื่อ ให้เปลี่ยนใหม่ทันเวลา ในเวลาเดียวกัน ให้ตรวจสอบว่าได้ขันสกรูยึดของคัตเตอร์แล้วหรือไม่ และทำการปรับเปลี่ยนหากจำเป็น
ตรวจสอบที่ยึด: ตรวจสอบสกรูยึดของที่ยึดเพื่อให้แน่ใจว่ายึดแน่นแล้ว หากพบว่าสกรูหลวมควรซ่อมแซมทันที นอกจากนี้ จำเป็นต้องตรวจสอบเบาะนั่งมีดว่ามีการสึกหรอหรือการเสียรูปหรือไม่ หากจำเป็นต้องเปลี่ยน
เครื่องตัดหล่อลื่น: ตามคำแนะนำของเครื่องตัด ให้เติมน้ำมันหล่อลื่นจำนวนเล็กน้อยลงในชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหว เช่น โซ่ เกียร์ ฯลฯ เพื่อให้การทำงานของเครื่องราบรื่น
เครื่องแปรงทำความสะอาด: หากเครื่องตัดมีเครื่องแปรงคุณต้องทำความสะอาดแปรงอย่างสม่ำเสมอ ขั้นแรก ให้ปิดแหล่งจ่ายไฟของเครื่องตัด ถอดแปรงออก และเป่าฝุ่นและเศษซากที่สะสมบนแปรงด้วยแปรงหรือลม
ตรวจสอบสภาพการทำงาน: เปิดแหล่งจ่ายไฟและสังเกตสภาพการทำงานของเครื่อง ตรวจสอบเสียงที่ผิดปกติ การสั่นสะเทือน ฯลฯ หากมีความผิดปกติใด ๆ คุณต้องบำรุงรักษาอย่างทันท่วงที ในเวลาเดียวกันจำเป็นต้องตรวจสอบว่าการเชื่อมต่อของเครื่องตัดมีความเสถียรและขันให้แน่นหรือไม่หากจำเป็น
ตรวจสอบสายพาน: ตรวจสอบความตึงและการสึกหรอของสายพาน หากพบว่าสายพานเกียร์หลวมหรือชำรุดคุณต้องปรับหรือเปลี่ยนสายพานเกียร์ให้ทันเวลา
การทำความสะอาดของเสีย: การใช้โอกาสในการตัดในแต่ละวันทำให้เกิดขยะจำนวนมาก ทำความสะอาดของเสียให้ทันเวลาเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการสะสมส่งผลต่อการทำงานปกติของเครื่อง
การบำรุงรักษาตามปกติ: นอกเหนือจากการบำรุงรักษารายวันแล้ว ยังต้องมีการบำรุงรักษาและบำรุงรักษาที่ครอบคลุมเป็นประจำอีกด้วย จัดทำแผนการบำรุงรักษาที่สอดคล้องกันตามสถานการณ์การใช้งานและข้อกำหนดของผู้ผลิต รวมถึงการทำความสะอาด การหล่อลื่น การตรวจสอบ และการเปลี่ยนชิ้นส่วนที่เปราะบาง
เวลาโพสต์: 27 เมษายน-2024